เมื่อวันพุธที่ 28 พ.ย. 61 บริษัท IT Green จำกัด Distributor ชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านระบบเครือข่ายและการป้องกัน ได้จัดงานสัมมนาขึ้นที่โรงแรม Grand Mercure Bangkok Fortune ซึ่งมีหัวข้องานที่น่าสนใจว่า "SMB Technology Investments with Solution Networking of ArubaOS" ซึ่งทาง DTCi ได้มีโอกาสเข้าร่วมในงานสัมมนาในครั้งนี้ จึงขอนำเอาเนื้อหาพร้อมภาพบรรยากาศงานมาแชร์ให้ทุกๆ ท่านกันครับ
Aruba มีโซลูชั่นด้านระบบเครือข่ายที่เหมาะสมกับธุรกิจ SMB ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการระบบเครือข่ายทั้งหมดขององค์กรไม่ว่าจะเป็น Wired และ Wireless ได้ภายในหนึ่งเดียว
ทุกๆ ท่านคงทราบกันดีว่า Aruba เป็นหนึ่งในผู้นำด้าน Wireless Solution แต่ในปัจจุบัน Aruba ได้ขยับจุดยืนของตัวเองสู่การเป็น “Intelligence Edge” หรือ เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งด้าน Wired และ Wireless Solution ซึ่งจะทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดขององค์กรใช้งานได้ "ง่ายดาย" กว่าเดิมทั้งผู้ใช้งานและผู้ดูแลระบบเนื่องจาก
- Aruba ปรับเปลี่ยนการวางระบบแบบเดิมที่ใช้ VLAN เป็นใช้ Roles ในการระบุตัวตนซึ่งจะทำให้เกิด User Consistency ใช้งานง่ายทั้งผู้ใช้งานและผู้ดูแลระบบ เนื่องจากผู้ดูแลระบบไม่จำเป็นต้องสร้าง VLAN ให้แต่ละอุปกรณ์เหมือนแบบเดิมแต่จะสามารถกำหนด Policy ไปยังผู้ใช้แต่ละคนได้ผ่านการกำหนด “Roles” โดยจะทำผ่าน Controller ของ Aruba ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับ Enforce Roles ไปยัง User และ Clearpass ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการระบุตัวตน (Authentication) ที่ผู้ดูแลระบบสามารถสร้างและกำหนด Roles ได้อย่างง่ายดาย
- ไม่ว่า User จะเกาะที่ Switch (Wired) หรือ AP (Wireless) ระบบก็สามารถ Enforce Roles ไปสู่ผู้ใช้งานได้เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อผู้ใช้งานเปลี่ยนการเชื่อมต่อจากสาย LAN (Wired) ไปยัง AP (Wireless) หรือย้ายระหว่าง AP ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องระบุตัวตนหลายๆ รอบ เพื่อความสะดวกสบายและความต่อเนื่องของธุรกิจได้เป็นอย่างดี
- Airwave และ Aruba central ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการ Monitoring ระบบเครือข่ายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Wired หรือ Wireless ซึ่งทั้งสองจะแตกต่างกันที่ Airwave สามารถบริหารได้ทั้งอุปกรณ์ของ Aruba และ Third Party (ได้เท่าที่แต่แบรนด์จะเปิดให้สามารถทำได้) แต่ Aruba Central จะบริหารแค่อุปกรณ์ของ Aruba เท่านั้นและสามารถบริหารผ่าน Cloud ได้ รวมถึงทั้งสองจะแตกต่างที่ License ในการใช้งานด้วย Airwave จะคิด License เป็นต่อจำนวนอุปกรณ์ที่จะบริหารจัดการ ส่วน Aruba Central จะคิดเป็นต่อ AP หรือ Switch โดยคิดราคาเช่ารายปี
ยกระดับการบริหารระบบเครือข่ายอย่างปลอดภัยด้วยการตรวจตราจาก Clearpass Airwave และ Aruba Central
- Log & Attack Response ป้องกันอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงได้อย่างทันท่วงที โดยเมื่ออุปกรณ์นั้นๆ เชื่อมต่อมายังระบบอุปกรณ์จะต้องส่ง Log ไปยัง Clearpass จากนั้น Clearpass จะวิเคราะห์ซึ่งหากว่ามีภัยก็จะเตือนผู้ดูแลระบบเพื่อสามารถทำการบล็อคได้อย่างทันที
- Airwave และ Aruba Central สามารถตรวจสอบได้ละเอียดว่าผู้ใช้งานมีปัญหาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเนื่องจากอะไร และสามารถแก้ไขอย่างทันทีได้จากระยะไกล โดยจะมีการตรวจเช็คทั้งหมด 4 การตรวจสอบด้วยกันได้แก่
i. ตรวจสอบว่าผู้ใช้งานเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายได้หรือไม่
ii. ตรวจสอบว่าผู้ใช้งานระบุตัวตนผ่านหรือไม่
iii. ตรวจสอบว่า IP จากระบบได้แจกออกไปหรือไม่
iv. ตรวจสอบว่าผู้ใช้งานสามารถออกอินเตอร์เน็ตได้หรือไม่
- ฟีเจอร์ Visual RF (Network Heatmap) จาก Airwave และ Aruba Central จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบรู้ระดับสัญญาณบริเวณต่างๆ ได้ว่าเข้มหรืออ่อนโดยจะแสดงเป็นแผนผัง Floor Plan พร้อม Heatmap สัญญาณจาก AP แต่ละตัว ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานไม่สามารถออกอินเตอร์เน็ตหรือสัญญาณอ่อนเนื่องจากอะไร
i. Client Match เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับสัญญาณ WIFI ที่แรงอยู่เสมอ โดย AP แต่ละตัวจะตรวจวัดความแรงของสัญญาณ WIFI และทำการย้ายผู้ใช้งานไปเชื่อมต่อกับ AP ที่มีสัญญาณแรงกว่าทันที ซึ่งแตกต่างจากปกติที่ผู้ใช้งานจะต้องเลือกสัญญาณ WIFI เอง
- ฟีเจอร์ App RF ซึ่งช่วยในการจัดการ Bandwidth ของอินเตอร์เน็ตได้ สามารถทำการ Shape bandwidth สำหรับ Application ต่างๆได้ เช่น ลดระดับ Bandwidth เมื่อใช้งาน YouTube หรือ Facebook เป็นต้น ซึ่งจะทำให้บริหารการใช้งานและ Traffic ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับ Dashboard ให้ผู้ดูแลสามารถดู App traffic ได้
- Airwave สามารถกด Diagnostics เพื่อวิเคราะห์ว่าอุปกรณ์ใช้งาน AP, Switch หรือ Controller ตัวใด ซึ่งจะแสดงผลเป็น Topology ช่วยให้ผู้ดูแลระบบมองเห็นปัญหาได้ง่านขึ้น มากกว่านั้นยังสามารถ Rouge detection ได้ซึ่งเมื่ออุปกรณ์ใดมาต่อวงเน็ตเวิร์คที่ไม่ใช่อุปกรณ์ของ Aruba จะมีการแจ้งเตือนขึ้น
- Airwave และ Aruba Central สามารถทำ Report ออกมาและสามารถตั้งเป็น Schedule ได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบในการวิเคราะห์ถึงภัยและประสิทธิภาพของระบบเครือข่ายได้พร้อมรองรับต่อพรบ. ต่างๆ
- ทำ Zero Touch Provisioning (ติดตั้งได้อย่างทันทีและอัตโนมัติ) กับ Switch ได้ ด้วยการทำ Template ที่ Airwave ไว้ก่อนเมื่อ Switch มีการต่ออุปกรณ์เข้าเครือข่ายและได้ Assign DHCP ก็สามารถทำการกำหนด Option ต่างๆ และดึงเอา Configure มาใช้ได้เลย ซึ่งหากไม่มี DHCP ก็สามารถเลือกใช้ Aruba Activate แทนได้ ซึ่งจะทำหน้าที่คล้ายๆกันเพียงแต่ Aruba Activate จะอยู่บน Cloud ดังนั้นอุปกรณ์ต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตก่อนถึงจะสามารถทำ Zero Touch Provisioning ได้
บริหารและควบคุมระบบเครือข่ายได้อย่างครบวงจรด้วย SD-Branch Solution
โซลูชั่น SD-WAN ของ Aruba จะมีความสามารถมากกว่าแบรนด์อื่นเนื่องจากไม่เพียงแค่สามารถบริหารจัดการแค่ WAN แต่ยังสามารถบริหารได้หมดทั้ง WAN, AP, Switch ซึ่งมีตัวควบคุม (Orchestrator) คือ Aruba Central ดังนั้นโซลูชั่น SD-WAN ของ Aruba จะเป็นมากกว่าจัดการ WAN แต่คือเป็นการจัดการทั้งสาขาเลยจึงถูกเรียกว่า “SD-Branch” ซึ่ง Controller ของ Aruba รุ่น 7000 Series (มี feature Firewall และ รองรับ Port ถึง 24 Port การใช้งาน) ขึ้นไปจะสามารถทำ Solution นี้ได้ ซึ่งจะเป็นการรวม Solution ทั้งหมดของระบบเครือข่ายที่จะสามารถบริหารจัดการพร้อมแก้ไขปัญหาได้จากส่วนกลางอย่างง่ายดายไว้ด้วยกัน โดยมีความสามารถยกตัวอย่างเช่น
- ทำ Zero Touch Provisioning ได้
- ทำ Guest Authentication ได้ ซึ่งสามารถกำหนดรูปแบบการยืนยันตัวตนได้ คือ เบอร์โทรศัพท์ บัตรประชาชน หรือ Facebook เป็นต้น
- AAA Survivability สามารถช่วยให้ลูกค้ายังคงติดต่อกับระบบเครือข่ายได้โดยไม่ต้องระบุตัวตนเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อระบบเกิด Downtime
- ทำการกำหนด Dynamic Path Steering ได้ซึ่งจะทำให้สามารถจัดการ Bandwidth ของแต่ละ App ได้ ซึ่งจะถูกเรียกว่า Branch Gateway ซึ่งจะรวม Web Filtering และ Dynamic Segmentation ไปในตัว ซึ่ง Dynamic Path Steering จะทำได้โดยมีสามขั้นตอนด้วยกันได้แก่
i. กำหนด Roles ของผู้ใช้งาน
ii. กำหนด Service Level Agreement (SLA) เช่น ค่า Delay หรือ Loss ในการเชื่อมต่อไม่ควรเกินเท่าไหร่
iii. กำหนด Path Performance ว่าจะเป็น MPLS/ Leased Line / 4G เป็นต้น
เมื่อมี Dynamic Path Steering แล้วคุณจะก็มั่นใจได้ว่าระบบเครือข่ายจะมีทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุดได้และยังสามารถมั่นใจได้อีกว่าองค์กรจะสามารถเชื่อมต่อกันได้อยู่ตลอดเวลาทั้งภายในและภายนอก
โดยแต่ละสาขาสามารถทำ VPN เพื่อพูดคุยกับสาขาหลักได้โดยสามารถเลือกได้ 3 วิธี ได้แก่
- VIA Software ที่ช่วยในการทำ VPN ของ Aruba ซึ่งจะเหมาะกับปริมาณผู้ใช้งานในสาขามีน้อย
- IAP-VPN ผู้ใช้งานในสาขามีปานกลาง ประมาณสาขาละ 10-15 คน
- SD-Branch ใช้เมื่อสาขามีผู้ใช้งานมากกว่า 15 คน
Aruba กำลังจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในเร็วๆนี้
- AP รุ่นใหม่ 802.11ax หรือเรียกว่า WIFI 6 ซึ่งสามารถส่งสัญญาณได้แรงขึ้นโดยมีเสาส่งสัญญาณทั้งหมด 8 เสา พร้อมรองรับคลื่นสัญญาณทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz. แถมยัง Support อุปกรณ์ IoT
- 303P Campus AP เป็น AP ที่สามารถทำหน้าที่เหมือนเป็น Switch ได้ ซึ่งในรุ่นนี้จะสามารถทำการจ่ายไฟผ่าน PoE หรือส่งกระแสไฟครึ่งหนึ่งไปยังอุปกรณ์อื่นๆได้ ซึ่งเรียกฟังก์ชั่นนี้ว่า "Daisy Chain power support"
- Switch รุ่นใหม่ 2930M ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการจ่ายไฟมาตรฐานใหม่ 802.3bt ซึ่งสามารถรองรับไฟถึง 60 Watt
- Feature 8.4 NetInsight เป็น AI ที่ช่วยเรื่อง Green AP ซึ่งเมื่อมี AP ไม่มีคนใช้งาน เช่น ในวันหยุดยาว Netinsight จะสั่งการไปที่ AP ให้ลดกำลังไฟในการใช้งานลงเพื่อประหยัดพลังงาน
โดยสรุปแล้วจะเห็นได้ว่า Aruba สามารถบริหารจัดการระบบเครือข่ายได้อย่างง่ายดายและครบวงจรทั้ง Wired และ Wireless ทั้งหมดได้ในที่เดียว ทำให้ลดเวลาและความยุ่งยากของผู้ดูแลระบบและผู้ใช้งานได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังทำให้องค์กรมั่นใจอีกว่าระบบเครือข่ายจะเสถียรด้วยการป้องกันที่แน่นหนาและสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลาตอบรับกับการทำงานในปัจจุบันที่ต้องทำงานแบบ 7 วัน 24 ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้ Aruba จึงถือว่าเป็นผู้นำด้านระบบเครือข่ายที่มาแรงเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้
หากท่านสนใจเรื่อง Aruba หรือ Networking Solution สามารถติดต่อสอบถามกับเราได้
ติดต่อเรา ผู้เชี่ยวชาญด้านความต่อเนื่องของธุรกิจ DTC Internetworking Co.,Ltd. 123/3 Nonsi Road., Chongnonsi, Yannawa, Bangkok 10120 Tel: 02-294-6776 Email: Sales.soti@dtci.co.th