Enterprise Mobility Management (EMM) คืออะไร? ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นถึงที่มาของคำๆ นี้เล็กน้อย เนื่องจากในช่วงแรกที่องค์กรได้เริ่มนำอุปกรณ์พกพาต่างๆ (Mobile Device) เช่น Mobile, Tablet มาใช้ช่วยแบ่งเบาภาระงานภายในองค์กรไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร การส่งข้อความ ซึ่งองค์กรก็ต้องการที่จะบริหารจัดการกับ Mobile Device เหล่านี้เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจึงเกิดเป็นโซลูชั่น Mobile Device Management (MDM) ขึ้นมา ซึ่งโซลูชั่นนี้จะช่วยในการบริหารจัดการกับ "ตัวเครื่อง" ของ Mobile Device ไม่ว่าจะเป็นการทำ Device Security, Device Monitoring, Tracking เป็นต้น ซึ่งพอมาถึงในยุคปัจจุบันอย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่าเราไม่ได้ใช้ Mobile Device เพียงแค่การสื่อสารอีกต่อไป แต่ Mobile Device คือหัวใจสำคัญหลักขององค์กรที่จะช่วยในเรื่องความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น ดังนั้นข้อมูลหรือ Application ต่างๆ จึงถูกนำไปใช้งานใน Mobile Device เพิ่มขึ้น และก็อย่างที่ทุกท่านทราบดีครับ องค์กรก็จะต้องบริหารจัดการกับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นนั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงเกิดเป็นโซลูชั่น Enterprise Mobility Management (EMM) ขึ้นมาซึ่ง EMM จะไม่เพียงแค่ช่วยบริหารจัดการกับ "ตัวเครื่อง" เท่านั้นแต่ยังช่วยจัดการบริหารกับข้อมูลต่างๆ ด้วย เช่น ทำการบริหาร App หรือข้อมูล อย่าง Mobile Application Management (MAM), Mobile Content Management (MCM), Mobile Email Management (MEM) เป็นต้น แต่ในขณะที่ EMM Solution กำลังจะมาแรงในประเทศไทยนั้น ในต่างประเทศก็เริ่มจะมีโซลูชั่นใหม่เกิดขึ้นมาซึ่งก็คือ Unified Endpoint Management (UEM) หรือเป็นโซลูชั่นที่ช่วยในการบริหารจัดการ Endpoint ทั้งหมดภายในองค์กรแบบศูนย์กลาง กล่าวคือองค์กรจะสามารถจัดการบริหารได้ทั้ง PC, NoteBook, Workstation พร้อมทั้ง Mobile Device เช่น Mobile, Tablet, Handheld, IoT ต่างๆ พร้อมกันได้ภายในหน้า Console เดียว!
ซึ่งโดยสรุปแล้ว Enterprise Mobility Management (EMM) ก็คือ ชื่อเรียก Software ที่ช่วยในการจัดการบริหารกับ Mobile Device ได้ทั้งตัวเครื่องและข้อมูลที่อยู่ในเครื่องนั่นเองครับ
ทำไมซอฟแวร์การบริหารจัดการกับ Mobile Device เช่น MDM หรือ EMM กำลังกลายเป็นเทรนด์สำคัญของบริษัทในประเทศไทย
หลายๆ คนก็คงรู้กันดีนะครับว่าเทรนด์การใช้ Mobile Device เข้ามาช่วยย่นระยะเวลาของ Workflow Process ภายในองค์กรเพื่อให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและทำให้เกิด Downtime น้อยที่สุด นี่กำลังมาแรงมาในปัจจุบัน ซึ่งหลายๆ ท่านคงเริ่มเห็นกันบ่อยขึ้นในชีวิตประจำวันแล้ว เช่น Tablet+Scanner กลายเป็นโซลูชั่นที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าหรือเช็คราคาสินค้าภายในซุปเปอร์มาเก็ตได้ ซึ่งจะลดภาระหน้าที่ของพนักงานลงไปอย่างมากแถมยังช่วยเพิ่ม User Experience ได้ดีอีกด้วย หรือหลายท่านคงเห็นในร้านภัตตาคารแบรนด์ดังเริ่มให้พนักงานใช้ Handheld หรือ Smartphone ในการ Key Order ที่ลูกค้าสั่งลงไปในครื่องและเครื่องจะทำการส่งข้อมูลไปยังหลังบ้านเช่น ห้องครัว ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งพนักงานจะไม่ต้องเสียเวลาเดินไปกลับ ลด Downtime ในธุรกิจและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อีกด้วย และมากกว่านั้นหากท่านสังเกตบริเวณหัวโต๊ะของร้านภัตตาคารบางร้านท่านก็อาจจะเห็น Tablet ที่ท่านสามารถเลือกสั่งเมนูอาหารได้เอง ซึ่งที่ผมกล่าวมานี่ยังเป็นแค่หน้าบ้านที่ผู้บริโภคแบบเราๆ สามารถมองเห็นได้ง่ายนะครับ นอกจากหน้าบ้านแล้วยังมีการใช้ Mobile Device ช่วยใน Workflow หลังบ้านอีกด้วย เช่น เรื่องการเช็คของ, การ Tracking เป็นต้น ดังนั้นจะเห็นถึงการเติบโตของ Mobile Device ในประเทศไทยเริ่มสูงขึ้น องค์กรขนาดกลางและใหญ่ที่มี Mobile Device มากถึงหลักพันและหลักหมื่นเครื่อง ก็ต้องการการบริหารจัดการอุปกรณ์ทั้งหมดมากขึ้นเช่นกัน เช่น จะบริหารจัดการอย่างไรให้อุปกรณ์สามารถพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มใช้งานจนกระทั้งสิ้นสุดการใช้งาน ด้วยเหตุนี้ EMM Solution จึงเป็นที่ต้องการของตลาดไทยอย่างมากและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
SOTI หนึ่งในบริษัทระดับ Global Brand ที่เชี่ยวชาญในเรื่องของ EMM Solution โดยเฉพาะ
SOTI เป็นหนึ่งในบริษัทระดับโลกที่มุ่งเน้นในเรื่องของ EMM Solution ซึ่งมีลูกค้าใช้งานอยู่ทั่วโลกกว่า 17,000 องค์กรใน 176 ประเทศทั่วโลกและมี Partner มากกว่า 2,000 ราย และยังทำงานใกล้ชิดกับผู้ผลิตอุปกรณ์ Android มากกว่า 170 บริษัท โดย SOTI มี Platform ที่ชื่อว่า SOTI ONE ซึ่งจะช่วยในการบริหารจัดการ Mobile Device ทั้งหมดภายในองค์กรได้อย่างครบวงจร โดย SOTI ONE จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลักทั้งหมด 6 องค์ประกอบ ได้แก่
- SOTI MobiControl ระบบ EMM สำหรับบริหารจัดการและควบคุมความมั่นคงปลอดภัยเครื่องลูกข่ายทั้ง Apple iOS, Google Android, Microsoft Windows 10 และ Linux ทั้งหมดได้จากศูนย์กลาง อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับโซลูชันจากผู้ผลิตระบบอื่นๆ ได้มากมาย
- SOTI Assist ระบบ Help Desk สำหรับช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถช่วยผู้ใช้งานแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์พกพาได้อย่างง่ายดายผ่านเทคโนโลยี Remote Control ที่เชื่อมต่อได้จากทุกที่ทุกเวลาอย่างมั่นคงปลอดภัย
- SOTI Snap ระบบพัฒนา Mobile Application แบบ Cross-Platform ที่ทำให้เหล่าองค์กรสามารถสร้าง Mobile Application ได้ด้วยตัวเองอย่างรวดเร็ว โดยมีค่าใช้จ่ายน้อยลง อีกทั้งยังลดความซับซ้อนในการพัฒนา Mobile Application สำหรับตอบโจทย์ทางธุรกิจลงได้อย่างชัดเจน
- SOTI Insight ระบบ Business Intelligence ที่ทำงานบน Smartphone เป็นหลักเพื่อใช้ในการทำ Mobile Analytics วิเคราะห์ข้อมูลจาก Application หรือ File ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัวและชาญฉลาด
- SOTI Connect โซลูชันสำหรับการเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์ IoT อย่างมั่นคงปลอดภัย โดยรองรับได้หลาย Protocol และหลายระบบปฏิบัติการ
- SOTI Collaborate ช่องทางสำหรับการแบ่งปันข้อมูลและปรึกษาปัญหาที่เป็นส่วนหนึ่งของโซลูชัน SOTI ONE ทำให้ SOTI สามารถให้บริการลูกค้าและคู่ค้าได้ดียิ่งขึ้น
DTCi เป็น Partner หลักอย่างเป็นทางการกับ SOTI ใน Thailand ที่สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร ทั้งให้คำปรึกษา ติดตั้งและแก้ไขปัญหา โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญทั้ง Pre-sales และ Engineer สำหรับซอฟต์แวร์ SOTI โดยเฉพาะ ซึ่งท่านจะสามารถสอบถามกับเราได้โดยตรงเพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้อย่างทันท่วงทีหากปัญหาเกิดขึ้น
SOTI is a proven innovator and industry leader for simplifying business mobility and IoT solutions by making them smarter, faster and more reliable. SOTI helps businesses around the world take mobility to endless possibilities
Credit: https://searchenterprisedesktop.techtarget.com/definition/unified-endpoint-management-UEM
ติดต่อเราผู้เชี่ยวชาญด้านความต่อเนื่องของธุรกิจDTC Internetworking Co.,Ltd.123/3 Nonsi Road., Chongnonsi, Yannawa, Bangkok 10120Tel: 02-294-6776 Email: Sales@dtci.co.th